ท่านมาเยี่ยมชม ผมดีใจ ท่านจากไปผมคิดถึง

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

สัตว์เลี้ยงช่วยลดมะเร็ง

ผลวิจัยจากอเมริการะบุการมีสัตว์เลี้ยงที่บ้านช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้นได้เกือบ 1 ใน 3 ขณะที่ผลศึกษาจากแดนจิงโจ้ชี้เด็กอ้วนจ้ำม่ำสามารถรีดไขมันส่วนเกินอย่างง่ายดายถ้ามีหมาน้อยเป็นเพื่อน 
เดลิเมล์ - ผลวิจัยจากอเมริการะบุการมีสัตว์เลี้ยงที่บ้านช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้นได้เกือบ 1 ใน 3 

ขณะที่ผลศึกษาจากแดนจิงโจ้ชี้เด็กอ้วนจ้ำม่ำสามารถรีดไขมันส่วนเกินอย่างง่ายดายถ้ามีหมาน้อยเป็นเพื่อน 

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย,ซานฟรานซิสโก และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เชื่อว่าสัตว์เลี้ยงช่วยปกป้องจากโรคมะเร็งด้วยการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคของเจ้าของ

งานศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า เด็กที่เล่นกับสัตว์ขาดเรียนน้อยกว่าเพื่อนๆ เนื่องจากสามารถต้านทานการติดเชื้อได้ดีกว่า นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังบ่งชี้ว่า เด็กเล็กที่เติบโตมาโดยมีแมวและสุนัขอยู่ในบ้าน มีแนวโน้มเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดน้อยลง 

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้น หรือเอ็นเอชแอล จะเกิดกับระบบต่อมและท่อน้ำเหลืองหรือเครือข่ายหลอดเลือดและต่อมต่างๆ ที่เป็นเส้นทางให้เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับการติดเชื้อเดินทางไปทั่วร่างกาย 

โอกาสเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นตามวัย โดยอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยเอ็นเอชแอลอยู่ที่ 65 ปี และอาการรุนแรงที่สุดของโรคนี้อาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต

แม้สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้มีผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันยังคงเป็นปริศนา แต่ทฤษฎีหนึ่งที่พอจะนำมาอธิบายได้คือ รูปแบบการดำเนินชีวิตที่สะอาดถูกสุขอนามัยมากขึ้น เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้ว่า การสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรือสารพิษในสภาพแวดล้อม แท้จริงแล้วอาจช่วยปกป้องร่างกายจากมะเร็งบางประเภทได้

ในการตรวจสอบล่าสุด นักวิจัยจากสองมหาวิทยาลัยดังของอเมริกาได้ศึกษาผู้ป่วยกว่า 4,000 คน เพื่อดูว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดโอกาสในการเป็นมะเร็งหรือไม่

ผลปรากฏว่า อาสาสมัครไม่ถึง 1,600 คนเป็นโรคเอ็นเอชแอล ส่วนที่เหลือ 2,500 คนไม่เป็นโรคนี้ ซึ่งผลศึกษาชี้ว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีความเสี่ยงน้อยลง 30% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง และยิ่งเลี้ยงสัตว์นานเท่าใด อานุภาพในการปกป้องจากโรคนี้ก็ยิ่งสูงขึ้น

ในรายงานที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารเซนเตอร์ เอพิเดมิโอโลจี ไบโอมาร์กเกอร์ส แอนด์ พรีเวนชัน นักวิจัย ระบุว่า ปัจจัยบวกในเรื่องนี้อาจเป็นการที่สัตว์เลี้ยงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคของเจ้าของ

อย่างไรก็ดี ดร.โจดี้ มอฟแฟตต์ เจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลสุขภาพของแคนเซอร์ รีเสิร์ช ยูเค ตั้งข้อสังเกตว่าควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อสรุปความเชื่อมโยงของสิ่งที่ค้นพบนี้

ขณะเดียวกัน นักวิจัยออสเตรเลีย เผยว่า นอกจากการกินผักผลไม้ และออกกำลังกายอย่างจริงจังแล้ว เด็กที่อ้วนเกินไปอาจมีทางออกง่ายๆ ด้วยการเล่นกับเพื่อนสี่ขา

เนื่องจากเด็กที่เล่นกับสุนัขมีความเสี่ยงน้อยลงถึง 50% ที่จะอ้วนตุ๊ต๊ะหรือเป็นโรคอ้วน เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงที่บ้าน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยดีกินในเมลเบิร์น สัมภาษณ์ครอบครัวของเด็กอายุระหว่าง 5-12 ปี จำนวน 1,100 คน และพบว่าเด็กที่มีสัตว์เลี้ยงจะมีรูปร่างแข็งแรงสมส่วนมากกว่า แม้ไม่ได้พาน้องหมาออกไปเดินเล่นเป็นประจำก็ตาม และเด็กยิ่งเล็กมากเท่าไรก็จะยิ่งได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากขึ้น 

ในกลุ่มศึกษา นักวิจัย พบว่า 20% ของเด็กที่มีสุนัขหนึ่งตัวมีน้ำหนักเกิน แต่ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในกลุ่มเด็กที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง สำหรับเด็กอายุ 10-12 ปี พบว่า 27% ของเด็กที่มีสุนัขหนึ่งตัวมีน้ำหนักเกิน เทียบกับ 30% ของเด็กที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง

อนึ่ง งานวิจัยนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสารเฮลท์ โปรโมชันของออสเตรเลีย


ที่มา  เดลินิว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น